
ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดมือสอง มีหลายเรื่องที่ผู้ซื้อจะต้องรู้และตรวจสอบให้ดี โดยเฉพาะห้องที่ผ่านอายุใช้งานมาแล้วตั้งแต่ 5 - 10 ปี ซึ่งถึงจะยังไม่เก่ามาก แต่ก็อยู่ในระยะที่เริ่มมีบางอย่างในห้องเสื่อมสภาพแล้วนั่นเอง
วันนี้ Home Hug จะมาแนะนำ เรื่องต้องรู้และตรวจสอบ ก่อนซื้อคอนโดมือสองอายุ 5 - 10 ปี ให้เพื่อนๆ ที่กำลังเลือกซื้อคอนโดกันอยู่ ได้นำไปใช้ประกอบการเลือกห้องที่มีคุณภาพ ไม่มีปัญหาภายหลัง และคุ้มค่ากับการลงทุนหรืออยู่อาศัยกันนะคะ
ตรวจสอบสภาพห้องโดยรวม
ตรวจสอบความเสื่อมสภาพ เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมก่อนเข้าอยู่ หรือใช้ต่อรองขอลดราคากับผู้ขาย บางกรณีอาจคุยให้ผู้ขายซ่อมให้ก่อนได้
1.โครงสร้างพื้นฐานภายในห้อง
- วัสดุปูพื้น : หากเป็นพื้นกระเบื้อง อาจมีรอยร้าวหรือแอ่นตัว ส่วนถ้าเป็นวัสดุเทียมไม้อย่าง ลามิเนต, SPC หรือกระเบื้องยางลายไม้ อาจมีรอยขีดข่วน บวมน้ำ กรอบแดด
- ผนัง : ห้องชุดคอนโดอายุ 5 - 10 ปี อาจเริ่มพบรอยแตกร้าวเล็กๆ ซึ่งเกิดจากความร้อนหรือชื้นได้ แต่หากเกิดรอยแตกใหญ่ๆ ก็ต้องให้วิศกรช่วยตรวจเช็คว่ามีผลกระทบกับโครงสร้างจนเป็นอัตรายหรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตคราบเชื้อรา ซึ่งเกิดจากความชื้นได้ด้วย
- ฝ้าเพดาน : หากชั้นบนมีปัญหาน้ำรั่วซึม อาจเกิดคราบน้ำ รอยบวม รอยแตกลอก และคราบเชื้อราบนฝ้าได้ เรื่องนี้จะไม่ได้ยุ่งยากแค่การซ่อมฝ้า แต่ต้องประสานให้ห้องชั้นบนซ่อมท่อน้ำที่มีปัญหารั่วซึมด้วย
2.ประตู - หน้าต่าง
- ประตู : ทั้งประตูห้องชุดที่เชื่อมต่อกับโถงทางเดินส่วนกลาง และประตูห้องต่างๆ ในห้องชุด จะต้องเปิดปิดได้ตามปกติ ลูกบิด - บานพับ ไม่ฝืด และยังล็อคประตูได้อย่างแน่นหนา
หน้าต่าง : คอนโดอายุ 5 - 10 ปี เกือบทั้งหมดจะใช้ประตูกระจกบานเลื่อน ก็ต้องสังเกตเรื่องน้ำรั่วซึมจากฝนสาด และการเลื่อนเปิดปิดที่คล่องตัว รวมถึงดูรอยแตกร้าวด้วย
3.ระบบไฟฟ้า
- หลอดไฟส่องสว่าง : เมื่อใช้งานมา 5 - 10 ปี หลอดไฟบางจุดอาจเริ่มเปิดไม่ติด หรือส่องสว่างได้ไม่เต็มที่ ก็ต้องทำการเปลี่ยนใหม่
- ปลั๊กไฟ - สวิตซ์ไฟ : บางจุดอาจเริ่มหลวม หรือใช้งานไม่ได้ ต้องทำการเปลี่ยน หรือถือโอกาสอัปเกรดให้รองรับอุปกรณ์ Smart Home
- สายไฟ : คอนโดอายุ 5 - 10 ปี จะเริ่มเดินสายไฟซ่อมไว้บนฝ้าเพดานหรือภายในผนัง ซึ่งก็อาจเปิดปัญหาสายไฟเสื่อมสภาพได้ ทางที่ดีจึงควรให้ช่างไฟฟ้าเป็นผู้ตรวจสอบ
- ตู้ควบคุมไฟฟ้าและเบรกเกอร์ : ตามมาตรฐานแล้วควรมีอายุใช้งานเกิน 10 ปี แต่เพื่อความมั่นใจ ก็ควรตรวจสอบการทำงานว่าปกติดีหรือไม่ และมีความเสี่ยงไฟรั่วหรือเปล่า
4.ระบบประปา
- ก๊อกน้ำ : อาจเริ่มฝืดเวลาหมุน หรือมีน้ำรั่วซึม ปิดได้ไม่สนิท เกิดได้จากคราบสนิมหรือตะกรัน
- แรงดันน้ำ : หากแรงดันน้ำอ่อน ไม่แรงตามปกติ อาจเกิดจากการอุดตันในท่อน้ำ
- การระบายน้ำ : หากท่อระบายน้ำหรือสุขภัณฑ์ระบายน้ำไม่ได้หรือระบายช้า อาจมีการอุดตันได้
- ท่อน้ำรั่วซึม : ต้องดูใต้อ่างล้างหน้า รวมถึงรอยคราบน้ำบนฝ้า ที่น้ำอาจรั่วจากห้องข้างบนก็ได้
5.เฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน
- สภาพวัสดุไม้ : อาจบวมเพราะความชื้น หรือแห้งกรอบเพราะแสงแดด ในกรณีเลวร้ายคือถูกปลวกกิน ต้องตรวจสภาพเพื่อประเมินว่าใช้ต่อได้ หรือต้องรื้อทิ้งแล้วลงทุนทำใหม่ทั้งหมด
- มือจับ - บานพับ : ไม่หลุด หลวม หรือฝืดติดขัด ข้อนี้ถ้าสภาพไม้โดยรวมยังดี สามารถเปลี่ยนอะไหล่แค่บางจุดได้
รอยขีดข่วนและสีซีดจาง : ถึงจะไม่ส่งผลต่อการใช้งาน แต่ถ้าดูไม่สวยงามก็ต้องลงทุนเปลี่ยนใหม่เพื่อให้ห้องดูไม่เก่าไปด้วย
6.เครื่องปรับอากาศ
- การทำงาน : เครื่องปรับอากาศที่ถูกใช้งานอย่างหนักมา 5 - 10 ปี อาจมีปัญหา แอร์ไม่เย็น เสียงดัง หรือมีน้ำหยด ให้ลองเปิดดูประมาณ 30 นาทีก็เริ่มเห็นปัญหา หรือสังเกตคราบน้ำที่ผนังใต้เครื่องปรับอากาศได้
- ความสะอาด : หากผู้ใช้เก่าไม่ค่อยดูแลล้างแอร์เป็นประจำ ภายในเครื่องปรับอากาศและท่อจะมีฝุ่นสะสม หรืออาจมีเชื้อราซึ่งอันตรายต่อสุขภาพ ให้ลองเปิดแอร์แล้วสังเกตกลิ่นอับหรืออาการคัดจมูก
การตรวจสอบด้านเอกสารสำคัญ
ก่อนซื้อคอนโดมืสอง นอกจากจะต้องดูสภาพห้องแล้วก็ยังมีเรื่องเอกสารสำคัญที่ต้องเช็คให้ดี เพื่อกันปัญหาที่อาจตามมาภายหลังได้ ทางที่ดีนอกจากจะขอตรวจสอบจากผู้ขาย ควรติดต่อนิติบุคคลคอนโดและกรมที่ดิน ตรวจสอบว่าโฉนดไม่มีปัญหาหรือภาระผูกพันใด ๆ เช่น จำนอง ฟ้องร้อง หรือโดนยึด
- โฉนดห้องชุด (น.ส.4 จ) : เช็คว่าชื่อเจ้าห้องในโฉนดตรงกับชื่อผู้ขาย และมีการจำนองหรือไม่ ไถ่ถอนจำนองแล้วหรือยัง หากยังจำนองอยู่ก็ต้องให้ผู้ขายประสานกับทางธนาคารเตรียมไว้ด้วย
- หนังสือยินยอมการขาย : ถ้ามีผู้ร่วมกรรมสิทธิ์ กรณีที่เจ้าของเดิมกู้ร่วมเมื่อตอนขอสินเชื่อมาซื้อคอนโด ก็จะต้องมีหนังสือยินยอมการขายของผู้กู้ร่วมด้วย เพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้องในภายหลัง
- ใบปลอดหนี้ค่าส่วนกลาง : ตรวจสอบกับนิติบุคคลว่ายอดค่าส่วนกลางจนถึงปัจจุบันมีคงค้างหรือไม่ เพราะนิติฯ สามารถคัดค้านการโอนกรรมสิทธิ์กับทางกรมที่ดินได้จนกว่าจะมีการชำระจนครบ
นอกจากเรื่องสภาพห้องและเอกสารสำคัญต่างๆ เวลาจะ ซื้อคอนโดมือสอง เรายังควรสังเกตในเรื่องสภาพแวดล้อมของโครงการด้วยว่าส่วนกลางได้รับการดูแลดีหรือไม่ พฤติกรรมเพื่อนบ้านเป็นอย่างไร ส่งเสียงดัง หรือสูบบุหรี่ส่งกลิ่นรบกวนหรือเปล่า ถ้าพอพูดคุยได้อาจสอบถามด้วยว่า ผู้อยู่อาศัยเดิมในห้องที่เราจะซื้อมีปัญหาใดหรือไม่ถึงต้องการขายห้อง