ขอบคุณรูปภาพจาก www.canva.com
ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า หนึ่งในคำถามที่เจ้าของหรือผู้ลงทุนมักจะคิดหนักที่สุดคือ ควรเลือกลงทุนในบ้านเช่าหรือคอนโดเช่าดี? เพราะทั้งสองรูปแบบมีข้อดี ข้อเสีย โอกาส และความท้าทายแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับทำเล กลุ่มเป้าหมายผู้เช่า ไปจนถึงความสามารถในการบริหารจัดการของเจ้าของเอง
การเลือกผิดอาจทำให้ทรัพย์สินที่ควรสร้างกำไรกลายเป็นภาระที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่ม ในทางกลับกัน หากเลือกถูกย่อมช่วยเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ระยะยาวได้อย่างมั่นคง ดังนั้น บทความนี้ HomeHug จะพาคุณไปเจาะลึก 3 ปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า “บ้านเช่า” หรือ “คอนโดเช่า” แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด
1. กลุ่มเป้าหมายผู้เช่า
บ้านเช่า
- โดยทั่วไป บ้านเช่ามักดึงดูด ครอบครัว ที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง เช่น มีสนามหญ้า พื้นที่จอดรถ และห้องนอนหลายห้อง
- เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับ ผู้เช่าที่มีสัตว์เลี้ยง เพราะบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมมักยืดหยุ่นเรื่องนี้มากกว่าคอนโด
- นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ ชาวต่างชาติที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม หรือบริษัทที่ตั้งอยู่นอกตัวเมือง เพราะบ้านทำให้การเดินทางออกนอกเมืองสะดวกกว่า
- ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเช่าบ้านคือ สภาพแวดล้อมและเพื่อนบ้าน เพราะครอบครัวให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความเป็นมิตร และความสะดวกของสังคมรอบข้าง
คอนโดเช่า
- คอนโดส่วนใหญ่เหมาะกับ คนทำงานในเมือง ที่ต้องการความสะดวกสบายและเดินทางง่าย โดยเฉพาะคอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน หรือศูนย์กลางธุรกิจ
- ได้รับความนิยมจาก นักเรียนหรือนักศึกษา ที่เรียนในมหาวิทยาลัยใหญ่ ๆ รวมถึง ชาวต่างชาติ ที่ทำงานในเมืองหรืออยู่ในไทยระยะสั้น
- ผู้เช่ากลุ่มนี้มักมองหาความสะดวกในการเดินทาง ความครบครันของสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ รวมถึงการดูแลรักษาที่ง่าย
2. โอกาสในการลงทุน
บ้านเช่า
- มีโอกาสในการทำกำไรจากกลยุทธ์ “Fix & Flip” คือการซื้อบ้านเก่าที่ทำเลดี มาปรับปรุงซ่อมแซม แล้วขายต่อในราคาที่สูงขึ้น
- ทำเลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างยั่งยืน ถึงแม้ว่าตัวบ้านจะเก่า แต่หากอยู่ใกล้แหล่งงาน โรงเรียน หรือแหล่งคมนาคม ก็ยังมีความต้องการเช่าสูง
- สำหรับนักลงทุนที่มองระยะยาว บ้านยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเวลาหลายปี
คอนโดเช่า
- มี สภาพคล่องสูง เพราะหาผู้เช่าได้ง่าย โดยเฉพาะคอนโดในเมืองใหญ่หรือใกล้สถานศึกษา ที่มีความต้องการต่อเนื่อง
- สามารถสร้างผลตอบแทนจากค่าเช่าได้ดี หากตกแต่งห้องสวยงามและมีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบ ผู้เช่าจะรู้สึกคุ้มค่าและพร้อมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น
- สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง เช่น ฟิตเนส ล็อบบี้ หรือ Co-working Space ช่วยเพิ่มมูลค่าให้การลงทุนคอนโดเหนือกว่าบ้าน
3. ความท้าทายในการบริหารจัดการ
บ้านเช่า
- เจ้าของต้องมีสัญญาเช่าที่รัดกุมเพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย เช่น ผู้เช่าค้างค่าเช่า หรือทำให้บ้านเสียหาย
- หากปล่อยเช่าให้ครอบครัวที่มีเด็ก ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ที่ทนทาน ลดปัญหาการซ่อมแซมบ่อยครั้ง
- บ้านยังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามากกว่าคอนโด เช่น การดูแลสวน ระบบไฟฟ้า ประปา หรือพื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน
คอนโดเช่า
- สิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อเพื่อปล่อยเช่าคือ หนี้ส่วนกลาง ของเจ้าของเดิม เพราะหากมีค้างชำระ จะทำให้ผู้ซื้อรายใหม่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์หรือขอใช้งานสิ่งอำนวยความสะดวกได้
- คอนโดส่วนใหญ่ ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งอาจจำกัดกลุ่มผู้เช่าบางกลุ่ม
- ความสามารถของ นิติบุคคลอาคารชุด เป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดความน่าอยู่และความสะดวกสบาย หากการจัดการไม่ดี จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของคอนโดและโอกาสหาผู้เช่า
ไม่ว่าคุณจะเลือกลงทุนใน บ้านเช่า หรือ คอนโดเช่า ทั้งสองทางเลือกมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน หากเข้าใจกลุ่มเป้าหมายผู้เช่า เห็นโอกาสการลงทุน และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในการบริหารจัดการ คุณก็สามารถสร้างรายได้จากการปล่อยเช่าได้อย่างมั่นคง
HomeHug แนะนำให้คุณประเมินทั้ง เป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และ ศักยภาพในการจัดการ ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด และอย่าลืมติดตามสาระความรู้เรื่องอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมที่ www.homehug.in.th