ขอบคุณรูปภาพจาก www.freepik.com
การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรืออาคารพาณิชย์ อาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แค่มีทรัพย์สินก็หาผู้เช่ามาช่วยสร้างรายได้ แต่เบื้องหลังมีรายละเอียดที่ซับซ้อนและความเสี่ยงที่ต้องระวัง เพราะหากขาดการวางแผนที่รอบคอบ อสังหาฯ ที่ควรสร้างกำไรอาจกลายเป็นภาระที่สร้างปัญหาหนักใจแทนได้
ดังนั้น ก่อนจะเซ็นสัญญาเช่ากับผู้เช่ารายใด คุณควรรู้ข้อสำคัญ ที่จะช่วยให้การปล่อยเช่าเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. การคัดกรองผู้เช่าและสัญญาเช่าที่รัดกุม
หนึ่งในปัญหาที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์เผชิญบ่อยคือ ผู้เช่าค้างค่าเช่า ทำลายทรัพย์สิน หรือผิดสัญญา ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งในเชิงการเงินและเวลา ดังนั้น ก่อนจะตกลงให้ใครเข้ามาเช่า ควรมีระบบการคัดกรองอย่างละเอียด เช่น
- ขอเอกสารยืนยันตัวตนและประวัติการทำงาน เพื่อดูความมั่นคงด้านรายได้
- เรียกเก็บค่าเช่าล่วงหน้าและเงินประกันในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อเป็นหลักประกันกรณีเกิดความเสียหาย
ที่สำคัญที่สุดคือ สัญญาเช่าต้องรัดกุม ครอบคลุมทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น เงื่อนไขการเลิกสัญญาก่อนกำหนด, ค่าปรับกรณีชำรุดเสียหาย, การรับผิดชอบด้านค่าสาธารณูปโภค ฯลฯ การระบุไว้ชัดเจนในเอกสารจะทำให้คุณได้เปรียบทางกฎหมายและลดความเสี่ยงหากมีข้อพิพาทเกิดขึ้นในอนาคต
2. การประเมินสภาพแวดล้อมและการบริหารจัดการทรัพย์สิน
ถึงแม้ว่าตัวบ้านหรือคอนโดจะดีแค่ไหน หากสภาพแวดล้อมโดยรอบไม่น่าอยู่ ก็ยากที่จะหาผู้เช่าคุณภาพได้ การพิจารณาสภาพแวดล้อมควรดูหลายปัจจัย เช่น
- ความปลอดภัยในพื้นที่และระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการ
- สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ เช่น ห้าง ร้านอาหาร โรงเรียน หรือระบบขนส่งสาธารณะ
- ความเป็นมิตรและวัฒนธรรมของเพื่อนบ้านในโครงการ
นอกจากนั้น การดูแลรักษาทรัพย์สิน เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้เช่าตัดสินใจอยู่ระยะยาว เจ้าของควรลงทุนในการบำรุงรักษา เช่น การทาสีใหม่เมื่อหม่นหมอง, การดูแลเฟอร์นิเจอร์ให้พร้อมใช้งาน, หรือการซ่อมแซมเล็กน้อยทันทีเมื่อเกิดปัญหา
สำหรับ คอนโดมิเนียม ต้องให้ความสำคัญกับบริษัทที่ดูแลอาคาร เพราะการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ เช่น ความสะอาด, การซ่อมบำรุงระบบส่วนกลาง, การตอบสนองต่อปัญหาของผู้พักอาศัย ล้วนส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของโครงการ และมีผลต่อการตัดสินใจเช่าอย่างมาก
3. ความชัดเจนระหว่างผู้ให้เช่า และผู้เช่า
สัญญาเช่าที่ดีไม่ใช่แค่ป้องกันปัญหา แต่ต้องสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่า การแจกแจงรายละเอียดชัดเจนจะช่วยลดความคลุมเครือ เช่น
- การบำรุงรักษา : ผู้ให้เช่าจะรับผิดชอบเรื่องใดบ้าง เช่น ระบบไฟฟ้า, ประปา ส่วนผู้เช่าอาจต้องดูแลความสะอาดและการซ่อมเล็กน้อย
- เงื่อนไขการใช้ทรัพย์สิน : เช่น การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง, การดัดแปลงห้อง, การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย
- เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ : ควรระบุสภาพและคุณภาพของสิ่งที่มีให้ชัดเจน เช่น มีการทำ checklist ตอนส่งมอบและตอนเลิกสัญญา เพื่อป้องกันปัญหาโต้เถียง
นอกจากนี้ควรมีข้อกำหนดเกี่ยวกับ ความเป็นส่วนตัวของผู้เช่า เจ้าของไม่ควรเข้ามาในพื้นที่โดยไม่แจ้งล่วงหน้า เว้นแต่เกิดเหตุฉุกเฉิน สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่น ทำให้ผู้เช่ารู้สึกสบายใจและอยากอยู่ต่อระยะยาว
ใครกำลังวางแผนซื้อขาย หรือเช่าบ้าน และคอนโด www.homehug.in.th เป็นแพลตฟอร์มที่มีประกาศขาย - เช่าคอนโดมากมายหลากหลายทำเลให้เลือกดูกัน ลองแวะเข้าไปใช้งานได้เลย